วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2551

พันธมิตรฯกร้าวไม่เอายุบสภา ลั่นไม่เลิกม็อบ



ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 10.00 น. - นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงถึงการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ว่า ยืนยันว่ามาตรการนัดหยุดงานของสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์(สรส.) ยังคงเป็นไปตามที่ได้ประกาศไว้ทุกประการ แต่จะดำเนินการอย่างไร ที่ไหนอย่างไร ขึ้นอยู่กับ สรส.และรัฐวิหาหกิจแต่ละแห่ง ไม่เกี่ยวกับแกนนำ เรื่องนี้ สรส.คิดเอง ทำเอง ส่วนการตัดน้ำตัดไฟ หน่วยงานราชการนั้น เข้าใจว่าทางสรส.ยังคงเกรงว่าจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ในกรณีที่ประชาชนจะเดือดร้อน แต่ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งเปลี่ยนแปลงจุดยืนต่อแกนนำพันธมิตรฯแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวถามว่า ตกลงที่ประกาศไว้จะทำได้หรือไม่หรือแค่เป็นการขู่โดยใช้สื่อเป็นเครื่องมือ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าถ้าพูดแล้วทำไม่ได้ สื่อก็เสียหายที่รายงานไปก่อนแล้ว ตนจะไปถามกับ สรส.ว่าทำได้หรือไม่ ส่วนตัวแล้วหากอะไรที่ทำไม่ได้ก็จะไม่พูด แม้แต่ไม่แน่ใจก็ไม่พูด จะพูดก็ต่อเมื่อได้ทำไปแล้ว นายสมศักดิ์ กล่าวถึงท่าทีของ พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ที่ยืนยันจะไม่ใช้กำลังสลายการชุมนุม แต่ให้รัฐสภาแก้ปัญหา ว่า ถ้าเป็นหลักการที่ไม่ใช้ความรุนแรงพันธมิตรฯพอใจแน่นอน ทั้งนี้ยืนยันว่าจะไม่มีการเจรจากับนายสมัคร และฝ่ายใดก็ตามหากนายสมัคร นายกรัฐมนตรี ยังไม่ลาออก และย้ำว่าข้อเรียกร้องของพันธมิตรฯคือให้นายกฯลาออกแล้วรัฐบาลต้องออกไปทั้งหมดจะเปลี่ยนหน้าตามาเป็นนายกฯเราไม่เอาทั้งนั้น หรือยุบสภาเราก็ไม่เลิกชุมนุมเพราะการยุบสภาเป็นการแก้ปัญหาของนักเลือกตั้ง ไม่ใช่แก้ปัญหาประชาชน พันธมิตรฯจะไล่นายสมัคร ต่อไปเพราะเขายังอยู่ก็มีโอกาสโกงเลือกตั้งได้ ส่วนการจะสลับขั้วให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลนั้นไม่ใช่สิ่งที่เราเรียกร้อง แต่แม้ว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์จะร่วมกับพรรครัฐบาลปัจจุบันก็รับไม่ได้เพราะนักการเมืองเหล่านี้ล้วนเคยทำความผิดร่วมกันทั้งโดยเฉพาะกรณีเขาพระวิหาร เราเห็นธาตุแท้มาแล้วทั้งนั้น ผู้สื่อข่าวถามว่า หากไม่ยอมรับพรรครัฐบาลแต่พรรคประชาธิปัตย์ก็มีเสียงไม่พอที่จัดตั้งรัฐบาล เท่ากับว่าข้อเรียกร้องของพันธมิตรฯจะไม่มีทางเป็นจริงได้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า บ้านเมืองไม่เคยอับจนหนทาง ในที่สุดต้องหาทางออกได้ ขณะนี้พันธมิตรฯได้มองเห็นช่องทางแล้ว ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เวลาอ่านรัฐธรรมนูญต้องอ่านหลายมาตรา เหมือนอ่านนิยาย แล้วจะเห็นช่องทาง ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วผู้นำคนใหม่ที่ตรงกับความต้องการของพันธมิตรฯจะเป็นแบบไหน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่มีการคุยกันในรายละเอียด แต่หลักใหญ่คือต้องไม่มีประวัติการโกง การทุจริต ต้องบริหารเพื่อประเทศชาติประชาชนอย่างแท้จริง ยอมรับการตรวจสอบ พวกที่อยู่ในสภาแบบนี้เราไม่ยอมให้นำ ผู้สื่อข่าวถามว่า นักการเมืองที่ไม่เคยมีประวัติด้านไม่ดี ในสภาจะยังมีหลงเหลืออยู่หรือ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า อาจจะเป็นคนที่เราไม่เคยเห็นตาเลยก็ได้ จริงๆแล้วสังคมไทยมีคนดีเยอะมาก แต่คนเลวๆทั้งนั้นที่อยู่ในกระบวนการเลือกตั้ง 90 เปอร์เซนต์ ที่ไม่ดี ส่วนที่นักวิชาการเสนอว่าหากนายสมัคร ลาออก แล้วพันธมิตรฯควรจะมอบตัว นั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องการมอบตัวนั้นเป็นเรื่องอนาคต เรายืนยันว่าไม่ทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง ขณะนี้กำลังอุทธรณ์พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อยู่ ทั้งนี้ต้องดูว่านักวิชาการที่เสนอนั้นเป็นใครเพราะมีนักวิชาการจำนวนไม่น้อยที่ไม่เคยทำอะไร แต่พอถึงเวลามานั่งแถลงข่าว ซึ่งตนไม่ให้ราคากับนักวิชาการพวกนี้ ไร้ค่าไม่จำเป็นต้องฟัง โดยเฉพาะข้อเรียกร้องแบบนี้ที่ให้ถอยคนละก้าวนั้นแก้ปัญหาไม่ได้ เพราะกลุ่มหนึ่งอยู่กับที่แต่กลุ่มหนึ่งมาไล่ตีเมื่อเกิดเรื่องจะให้ถอยคนละก้าวได้อย่างไรนายสมศักดิ์ กล่าวว่า การที่รัฐบาลสร้างฉากให้เกิดการปะทะจนต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน เป็นการทำร้ายบรรยากาศการลงทุนของประเทศอย่างรุนแรง แต่สำหรับพันธมิตรฯการประกาศยิ่งเข้มแข็งขึ้น วันนี้ทุกคนไม่กลัวรัฐบาลแล้วไม่ว่าจะฉุกเฉินอย่างไร แต่เราก็ป้องกันการสลายการชุมนุมโดยระวังทุกวินาที



โดย น.ส.สุธินี เพ็ชรอยู่ ID:5131601542 Sec.02

2 ความคิดเห็น:

Mrmondaynight กล่าวว่า...

รองเท้าสวยดีนะครับ น่าเอามาใส่ที่แม่ฟ้าหลวง แต่คงไม่ดีต่อชีวิตตัวเอวแน่เลย ขอโทษนะครับที่นอกเรื่องไปหน่อย สุดท้ายแล้วจุดจบของรัฐบาลชุดนี้ก็คงไม่พ้นลาออกหรือยุบสภา แต่ทุกคนอย่าลืมเรื่องของคดียุบพรรคพลังประชาชนที่เลื่อนการพิจารณาคดีมาวันที่ 2 กันยายน นะครับ

นายปารเมศ เนื่องชมภู รหัสนักศึกษา 5131601399
section 02 school of law

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ข้อดี-ถือว่าเป็นแฟชั่นชนิดหนึ่งก็ดูดีไปอีกแบบ

ข้อเสีย-เป็นการนำสิ่งที่ไม่ควรทำมาทำ