วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2551

ลุ้นผลชี้ชะตาจำคุก สมัคร-ดุสิต คดีหมิ่น 09.00น.วันนี้

โดย คม ชัด ลึก
วัน พฤหัสบดี ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2551 00:00 น.ทนายยันสมัคร เข้าฟังคำพิพากษาอุทธรณ์ คดีหมิ่น สามารถ อดีตรองผู้ว่าฯกทม.เวลา 09.00 น.วันนี้ (25ก.ย.) สามารถ เผย ร่วมฟังคำพิพากษาด้วย ปัดไม่คาดหวังผลตัดสิน เชื่อศาลให้ความเป็นธรรม
ผู้ดำเนินรายการ 'สมัคร-ดุสิต คิดตามวัน'" hspace=3 src="http://news.sanook.com/story_picture/m/306754_002.jpg" vspace=3 border=0>นายสมัคร สุนทรเวช และนายดุสิต ศิริวรรณ ผู้ดำเนินรายการ 'สมัคร-ดุสิต คิดตามวัน'(25ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.00 น. ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และนายดุสิต ศิริวรรณ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีขณะที่ทั้งสองเป็นผู้ดำเนินรายการสมัคร-ดุสิต คิดตามวัน ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวีและรายการ เช้าวันนี้ที่ช่อง5 สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง5 เมื่อปี 2549 เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา กรณีระหว่างวันที่ 12-19 ม.ค. 49 มีการกล่าวพาดพิงนายสามารถในการล็อคสเป็ค ผู้รับเหมา โครงการประมูลของกรุงเทพมหานคร 10 โครงการ นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ กล่าวว่า ในวันนี้จะเดินทางไปฟังคำพิพากษาแน่นอน ส่วนคำพิพากษาจะออกมาแนวทางใดอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล ตนไม่ได้คาดหวังอะไรแต่มีความเชื่อมั่นในศาลสถิตยุติธรรมว่าศาลจะให้ความเป็นธรรมแน่นอน ขอให้รอฟังคำพิพากษาศาลวันนี้ ด้านนายประชุม ทองมี ทนายความนายสมัคร กล่าวว่า นายสมัครจะเดินทางไปฟังคำพิพากษาแน่นอน ไม่ได้มีการยื่นคำร้องขอเลื่อนนัดใดๆ ซึ่งคำพิพากษาออกมาแนวทางใดขอให้รอฟังวันนี้ ส่วนเรื่องประกันตัวนั้นได้เตรียมการไว้แล้วยังใช้หลักเดิมที่เคยยื่นไว้ในศาลชั้นต้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำพิพากษาเมื่อ12 เม.ย. 50 เห็นว่า การกระทำของนายสมัครและนายดุสิต เป็นการเสนอข่าวให้ประชาชนเชื่อว่า การก่อสร้างของกรุงเทพมหานครมีเงื่อนงำ ทุจริต ซึ่งเป็นการหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งนายสมัครจำเลยที่ 1 เคยกระทำผิดฐานหมิ่นประมาทมาแล้วหลายครั้งโดยศาลปรานีให้รอการลงโทษไว้เพื่อให้ปรับตัวเป็นคนดีแต่จำเลยที่ 1 กลับกระทำผิดซ้ำในความผิดเดิมอีก จึงพิพากษาให้จำคุกจำเลยทั้งสอง 4 กระทง ๆ ละ 6 เดือน รวมจำคุกคนละ 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากคดีนี้ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำเลยยังมีสิทธิ์ยื่นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย แต่ประเด็นข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำเลยต้องขออนุญาตฎีกาโดยให้ผู้พิพากษาหรืออัยการสูงสุดลงนามรับรอง




ID 5131601495

1 ความคิดเห็น:

ID5131601274 กล่าวว่า...

สมควรแล้วที่ออกไปอู่ไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย