เวลา 17.30 น. วันนี้ (9 ก.ย.) นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงภายหลังการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ วันนี้ (9 ก.ย.) ว่า ที่ประชุมมีการวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมือง โดยเฉพาะกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นายสมัคร สุนทรเวช พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเห็นว่า หากพรรคร่วมรัฐบาลจะจับมือกันเป็นรัฐบาลต่อไปถือเป็นความชอบธรรม เพราะเป็นเสียงข้างมาก แต่ต้องการวิงวอนว่า ขณะนี้ หลายฝ่ายวิตกว่า การจะเลือกใครมาเป็นนายกฯ ขอให้พิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะแม้กฎหมายไม่ปิดกั้นนายสมัครกลับมาเป็นนายกฯ อีก แต่ควรคำนึงถึงอารมณ์และความรู้สึกของประชาชนว่า ทำอย่างไรจะช่วยลดความขัดแย้ง หรือ ความรุนแรง
กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า กล่าวต่อว่า สิ่งที่น่ากังวลอีกประการหนึ่ง คือ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเช่นนี้ แล้ว ในวันที่ 25 ก.ย.นี้ ยังมีคดีที่ศาลอุทธรณ์นัดฟังคำพิพากษาในคดีที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำคุกนายสมัครโดยไม่รอลงอาญา กรณีเช่นนี้ ถ้าในสัปดาห์นี้ พรรคพลังประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาลมีมติให้นายสมัครฯ เป็นนายกฯ ในวันที่ 25 ก.ย. นี้ ถ้าศาลชั้นต้นพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น หรือ ถ้าไม่สามารถฎีกาได้ก็ไม่มีคนรับรองนายสมัครฯ ก็จะขาดคุณสมบัติถึงเวลานั้น ก็ต้องมาเลือกนายกฯ กันใหม่อีกครั้ง ดังนั้น ต้องคิดให้รอบคอบ เพราะมีข่าวว่า จะรีบเร่งนัดประชุมเลือกนายกรัฐมนตรีใน 1 - 2 วันนี้ ที่เห็นว่า ถ้าเป็นสัปดาห์หน้าให้ ส.ส. ได้ตั้งหลัก และสังคมตั้งตัวได้ น่าจะดีกว่า
วันเดียวกัน นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ได้กำหนดนัดประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 12 ก.ย.นี้ เวลา 09.30 น. เพื่อลงมติเลือกนายกฯ คนใหม่ โดยจะทำหนังสือแจ้งนัดการประชุมส่งไปยัง ส.ส. ทุกคนตามข้อบังคับการประชุมก่อน 3 วัน อย่างไรก็ตาม ไม่ได้นัดเร่งด่วนอะไร หรือ เร่งรัดประชุม เพราะเกรงจะมีการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง แต่เป็นการดำเนินการเพื่อให้พ้นภาระหน้าที่ของประธานสภาฯ
ประธานสภาฯ กล่าวต่อว่า ประเทศจะขาดประมุข 3 สถาบัน คือ บริหาร นิติบัญญัติและตุลาการไม่ได้ โดยจะต้องมีองค์ประกอบครบทั้ง 3 สถาบัน ส่วนใครจะมาเป็นนายกฯ ขึ้นอยู่กับที่ประชุมสภาฯ จะตัดสินใจ
กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า กล่าวต่อว่า สิ่งที่น่ากังวลอีกประการหนึ่ง คือ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเช่นนี้ แล้ว ในวันที่ 25 ก.ย.นี้ ยังมีคดีที่ศาลอุทธรณ์นัดฟังคำพิพากษาในคดีที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำคุกนายสมัครโดยไม่รอลงอาญา กรณีเช่นนี้ ถ้าในสัปดาห์นี้ พรรคพลังประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาลมีมติให้นายสมัครฯ เป็นนายกฯ ในวันที่ 25 ก.ย. นี้ ถ้าศาลชั้นต้นพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น หรือ ถ้าไม่สามารถฎีกาได้ก็ไม่มีคนรับรองนายสมัครฯ ก็จะขาดคุณสมบัติถึงเวลานั้น ก็ต้องมาเลือกนายกฯ กันใหม่อีกครั้ง ดังนั้น ต้องคิดให้รอบคอบ เพราะมีข่าวว่า จะรีบเร่งนัดประชุมเลือกนายกรัฐมนตรีใน 1 - 2 วันนี้ ที่เห็นว่า ถ้าเป็นสัปดาห์หน้าให้ ส.ส. ได้ตั้งหลัก และสังคมตั้งตัวได้ น่าจะดีกว่า
วันเดียวกัน นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ได้กำหนดนัดประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 12 ก.ย.นี้ เวลา 09.30 น. เพื่อลงมติเลือกนายกฯ คนใหม่ โดยจะทำหนังสือแจ้งนัดการประชุมส่งไปยัง ส.ส. ทุกคนตามข้อบังคับการประชุมก่อน 3 วัน อย่างไรก็ตาม ไม่ได้นัดเร่งด่วนอะไร หรือ เร่งรัดประชุม เพราะเกรงจะมีการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง แต่เป็นการดำเนินการเพื่อให้พ้นภาระหน้าที่ของประธานสภาฯ
ประธานสภาฯ กล่าวต่อว่า ประเทศจะขาดประมุข 3 สถาบัน คือ บริหาร นิติบัญญัติและตุลาการไม่ได้ โดยจะต้องมีองค์ประกอบครบทั้ง 3 สถาบัน ส่วนใครจะมาเป็นนายกฯ ขึ้นอยู่กับที่ประชุมสภาฯ จะตัดสินใจ
นสพ.ไทยรัฐออนไลน์
By:Sutinee Phetyu
ID:5131601542
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น